ผลการประชุมคณะกรรมการบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน)
วันนี้ ( ศุกร์ที่ 25 กุมภาพันธ์ 2554 ) ณ สำนักงานใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ได้มีการประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ โดยมี นายอำพน กิตติอำพน ประธานกรรมการบริษัทฯ เป็นประธานการประชุม มีวาระสำคัญ สรุปได้ดังนี้
1. เรื่อง ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ประจำปี 2553
คณะกรรมการบริษัทฯ รับทราบผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ประจำปี 2553 ในปีบัญชี 2553 เริ่มตั้งแต่เดือนมกราคมถึงสิ้นเดือนธันวาคม 2553 บริษัทฯ ได้ดำเนินงานตามแผนยุทธศาสตร์จนสามารถประสบความสำเร็จในการสร้างพื้นฐานธุรกิจที่แข็งแกร่งให้กับองค์กร (Build Solid Foundation) ถึงแม้จะได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ภูเขาไฟระเบิดในประเทศไอซ์แลนด์ ทำให้น่านฟ้ายุโรปต้องปิดลงระยะหนึ่งในเดือนเมษายน 2553 และเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมืองภายในประเทศ ในช่วงเดือนเมษายน
- พฤษภาคม 2553 แต่อย่างไรก็ตามในไตรมาส 3 เหตุการณ์เริ่มคลี่คลายประกอบกับบริษัทฯ ได้ดำเนินกลยุทธ์ธุรกิจอย่างเข้มข้น และมี การปรับแผนการทำงานให้เหมาะสมทันกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้การดำเนินงานของบริษัทฯ ในปี 2553 มีกำไรเพิ่มขึ้นจากปี 2552
ทั้งนี้ ในปี 2553 บริษัทฯ มีรายได้รวมทั้งสิ้น 184,270 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2552 จำนวน 20,395 ล้านบาท หรือร้อยละ 12.4 โดยมีรายได้จากการขายหรือการให้บริการเพิ่มขึ้น 18,985 ล้านบาท หรือร้อยละ 11.7 ค่าใช้จ่ายไม่รวมกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนแต่รวมส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนตามวิธีส่วนได้เสียและต้นทุนทางการเงิน มีจำนวนทั้งสิ้น 175,853 ล้านบาท สูงกว่าปีก่อน 16,918 ล้านบาท หรือร้อยละ 10.6 เป็นผลมาจากราคาน้ำมันเครื่องบินโดยเฉลี่ย สูงขึ้นร้อยละ 26.4 การเพิ่มปริมาณการผลิตและการขนส่ง ประกอบกับค่าใช้จ่ายบุคลากรสูงขึ้น ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากบริษัทฯ ได้ดำเนินยุทธศาสตร์การบริหารกำลังคน โดยการจัดให้มีโครงการ Golden Handshake และโครงการร่วมใจจากองค์กร (Mutual Separate Plan) เป็นจำนวนเงิน 2,263 ล้านบาท ซึ่งในระยะยาวจะส่งผลให้ต้นทุนบุคลากรโดยรวมลดลง และมีค่าใช้จ่ายเงินรางวัลประจำปี 2553 (โบนัส) จำนวน 3 เดือน ซึ่งค่าใช้จ่ายบุคลากรส่วนนี้เป็นค่าใช้จ่ายที่ไม่ใช่ค่าใช้จ่ายประจำ นอกจากนั้น ในปี 2553 บริษัทฯ มีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ 9,106 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5,939 ล้านบาท หรือร้อยละ 187.5 บริษัทฯ มีกำไรก่อนภาษีเงินได้ 17,523 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9,416 ล้านบาท หรือร้อยละ 116.1
อย่างไรก็ตามหากไม่รวมกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศบริษัทฯมีกำไรก่อนอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศและภาษีเงินได้ 8,417 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3,477 ล้านบาท หรือร้อยละ 70.4
บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 15,350 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 8.39 บาท สูงกว่าปี 2552 ซึ่งมีกำไรสุทธิ 7,344 ล้านบาท หรือกำไรต่อหุ้น 4.32 บาท และมีกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษีค่าเสื่อมราคา ค่าตัดจำหน่าย และค่าเช่าเครื่องบินและอะไหล่ ( EBITDAR) เท่ากับ 33,322 ล้านบาท สูงกว่าปีก่อน 1,405 ล้านบาท หรือร้อยละ 4.4
2. เรื่องผลการดำเนินงานด้านการขนส่ง ประจำเดือน มกราคม 2554
คณะกรรมการบริษัทฯ รับทราบผลการดำเนินงานด้านการขนส่ง ประจำเดือน มกราคม 2554 ดังนี้ บริษัทฯ มีปริมาณการผลิตผู้โดยสาร (Available Seat - Kilometer / ASK) สูงกว่าเดือนเดียวกันของปีก่อน ร้อยละ 2.1 ส่วนปริมาณการขนส่งผู้โดยสาร (Revenue Passenger– Kilometer / RPK) ต่ำกว่าเดือนเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 3.1 มีอัตราส่วนการบรรทุกผู้โดยสาร (Cabin Factor) เฉลี่ยร้อยละ 77.8
สำหรับด้านการขนส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ในเดือนมกราคม 2554 มีปริมาณการผลิตพัสดุภัณฑ์สูงกว่าเดือนเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 11.6 และมีปริมาณการขนส่งสินค้าสูงกว่าเดือนเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 9.9 มีอัตราส่วนการบรรทุกสินค้า (Freight Load Factor) เฉลี่ยร้อยละ53.7
3. เรื่อง การจ่ายเงินปันผล
คณะกรรมการบริษัทฯ มีมติให้นำเสนอที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาอนุมัติให้จ่ายเงิน ปันผลสำหรับผลการดำเนินงานประจำปี 2553 สำหรับงวด ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2553 ถึง 31 ธันวาคม 2553 ให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ในอัตราหุ้นละ1.25 บาท โดยกำหนดจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้น ในวันที่ 20 พฤษภาคม 2554
4. เรื่องการประชุมใหญ่สามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2554
คณะกรรมการบริษัทฯ มีมติเห็นชอบให้บริษัทฯ จัดการประชุมใหญ่สามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2554 ในวันพุธที่ 27 เมษายน 2554 เวลา 13.30 น. ณ ห้องประชุมมัฆวานรังสรรค์ สโมสรทหารบก ถนนวิภาวดีรังสิต โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิเข้าร่วมประชุมใหญ่สามัญ ผู้ถือหุ้นประจำปี 2554 ในวันอังคารที่ 15 มีนาคม 2554 และให้รวบรวมรายชื่อตามมาตรา 225 ของพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 โดยวิธีปิดสมุดทะเบียนใน วันพุธที่ 16 มีนาคม 2554
5. เรื่องการจัดหาที่ปรึกษาและผู้จัดการการจัดจำหน่ายตราสารหนี้ประเภทหุ้นกู้ในประเทศ
คณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติแต่งตั้ง ธนาคาร กรุงเทพ จำกัด (มหาชน) และธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาและผู้จัดการการจัดจำหน่ายตราสารหนี้ประเภท หุ้นกู้ในประเทศ วงเงิน 8,000 ล้านบาท โดยมีกำหนดการออกและเสนอขายประมาณเดือนพฤษภาคม 2554
6. เรื่องโครงการจัดหาเครื่องบินปี 2554 – 2565
คณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติโครงการจัดหาเครื่องบิน ดังนี้
1. อนุมัติโครงการจัดหาเครื่องบิน ปี 2554-2560 จำนวน 37 ลำ พร้อมทั้งเครื่องยนต์สำรอง ประกอบด้วย เครื่องบินลำตัวแคบ จำนวน 11 ลำ และเครื่องบินลำตัวกว้างสำหรับเส้นทางบินข้ามทวีปและเส้นทางบินภูมิภาค จำนวน 26 ลำ รวมวงเงินประมาณ 216,000 ล้านบาท
2. อนุมัติโครงการจัดหาเครื่องบิน ปี 2561-2565 โดยเป็นการจัดหาเครื่องบินลำตัวกว้างสำหรับเส้นทางบินข้ามทวีปและเส้นทางบินภูมิภาค จำนวน 38 ลำ พร้อมทั้งเครื่องยนต์สำรอง ประกอบด้วย การจัดหาเครื่องบินแบบ Firm Order จำนวน 21 ลำ และการจัดหาแบบ Option Order จำนวน 17 ลำ รวมวงเงินประมาณ 241,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ โครงการจัดหาเครื่องบินปี 2554-2565 เป็นการดำเนินการตามแผนกลยุทธ์ ปี 2554-2560 เพื่อสนับสนุนกลยุทธ์การพัฒนาเครือข่ายเส้นทางบินและฝูงบินที่มีเป้าหมายเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของฝูงบินด้วยการจัดหาเครื่องบินใหม่ ทดแทนการปลดระวางเครื่องบินที่มีอายุการใช้งานมานาน และเพิ่มปริมาณการผลิตเพื่อการเจริญเติบโตของบริษัทฯ โครงการดังกล่าวเป็นการลงทุนจัดหาเครื่องบินเพิ่มนอกเหนือจากที่ได้รับอนุมัติแล้วและอยู่ระหว่างรอการรับมอบจำนวน 26 ลำ ได้แก่ แอร์บัส 330-300 จำนวน 5 ลำ (ซึ่งอยู่ระหว่างการรอติดตั้งเก้าอี้จากบริษัท ZIM) แอร์บัส 380-800 จำนวน 6 ลำ แอร์บัส 330-300 จำนวน 7 ลำ และ โบอิ้ง 777-300ER จำนวน 8 ลำ โดยมีการปลดระวางเครื่องบิน จำนวน 21 ลำ ได้แก่ แอร์บัส 300-600 จำนวน 8 ลำ โบอิ้ง 747-400 จำนวน 6 ลำ โบอิ้ง 777-300ER จำนวน 3 ลำ ที่หมดสัญญาเช่าและโบอิ้ง 737-400 จำนวน 4 ลำ ที่จะรับคืนจากนกแอร์หลังหมดสัญญาเช่า
โครงการจัดหาเครื่องบิน แบ่งออกเป็น 2 ช่วง ได้แก่ โครงการจัดหาเครื่องบิน ปี 2554-2560 จำนวน 37 ลำ ประกอบด้วย การจัดหาเครื่องบินลำตัวแคบ จำนวน 11 ลำ และการจัดหาเครื่องบินลำตัวกว้างสำหรับเส้นทางบินข้ามทวีป และสำหรับเส้นทางบินภูมิภาครวมจำนวน 26 ลำ และโครงการจัดหาเครื่องบิน ปี 2561-2565 จำนวน 38 ลำ ประกอบด้วย การจัดหาแบบสั่งซื้อและรับมอบเครื่องบินตามข้อกำหนดในสัญญา (Firm Order) จำนวน 21 ลำ เพื่อทดแทนการปลดระวางเครื่องบินเก่า และการจัดหาแบบสามารถเปลี่ยนแปลงได้ภายใน 2 ปี ก่อนการรับมอบ (Option Order) จำนวน 17 ลำ เพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต รวม 38 ลำ เป็นเครื่องบินใช้บินเส้นทางข้ามทวีป จำนวน 14 ลำ และเครื่องบินใช้บินในเส้นทางภูมิภาค จำนวน 24 ลำ
เป้าหมายการจัดหาเครื่องบินในครั้งนี้ จะทำให้บริษัทฯ มีฝูงบินที่ทันสมัย และมีอายุเฉลี่ยของสายการบินลดลงจนอยู่ระดับแนวหน้าของสายการบินในระดับเดียวกัน โดยอายุของฝูงบินลดลงจาก 11.9 ปีโดยเฉลี่ยในปี 2553 เป็น 8.5 ปีโดยเฉลี่ยในปี 2560 พร้อมกันนั้นประสิทธิภาพของฝูงบินจะเพิ่มขึ้น โดยอัตราการใช้เชื้อเพลิงต่อหน่วยจะลดลงเฉลี่ยประมาณร้อยละ 1.3 ต่อปี และอัตราการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่อหน่วยจะลดลงเฉลี่ยประมาณร้อยละ 1.5 ต่อปี ขณะที่อัตราการซ่อมบำรุงต่อหน่วยลดลงเฉลี่ยประมาณร้อยละ 3.2ต่อปี ที่สำคัญฝูงบินใหม่จะได้รับการติดตั้งที่นั่งผู้โดยสารที่ออกแบบใหม่ซึ่งจะมีความสะดวกสบาย และอุปกรณ์เพื่อความบันเทิงบนเครื่องบินรุ่นใหม่ที่ทันสมัย ช่วยให้บริษัทฯ สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้า และเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันได้ เป็นอย่างดี
7. เรื่องโครงการจัดหาเครื่องบินบรรทุกสินค้า
คณะกรรมการบริษัทฯ อนุมัติโครงการจัดหาเครื่องบินบรรทุกสินค้าของฝ่ายการพาณิชย์สินค้าและไปรษณียภัณฑ์ โดยการจัดหาเครื่องบินขนส่งผู้โดยสารแบบโบอิ้ง 747-400 อายุประมาณ 15 –20 ปี จำนวน 2 ลำ มาดัดแปลงเป็นเครื่องบินขนส่งสินค้า คาดว่าจะดำเนินการ แล้วเสร็จและนำมาให้บริการขนส่งสินค้าได้ประมาณไตรมาส 2 ของปี 2555
8. เรื่องการรับพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินรุ่นใหม่ ประจำปี 2554
คณะกรรมการบริษัทฯ มีมติเห็นชอบให้ดำเนินการรับพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินรุ่นใหม่ ประจำปี 2554 จำนวน 468 อัตรา ประกอบด้วยพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินชาย จำนวน 187 คน และพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินหญิง จำนวน 281 คน แบ่งเป็นพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินหญิงชาวไทย จำนวน 248 คน ชาวญี่ปุ่น จำนวน 28 คน และ ชาวเกาหลี จำนวน 5 คน
ทั้งนี้ บริษัทฯ จะดำเนินการเปิดรับสมัครและคัดเลือกพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินชาวไทยให้เสร็จสิ้นก่อน จึงจะเริ่มกระบวนการสรรหาและคัดเลือกพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินหญิงชาวญี่ปุ่น และชาวเกาหลีต่อไป สำหรับกระบวนการรับสมัครและคัดเลือกพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินชาวไทยจะเริ่มดำเนินการได้ประมาณต้นเดือนมีนาคม 2554เป็นต้นไป ซึ่งผู้ที่สนใจสามารถติดตามรายละเอียดได้จากเว็บไซต์ www.thaiairways.com
9.เรื่องการปรับปรุงโครงสร้างองค์กร
คณะกรรมการบริษัทฯ มีมติเห็นชอบการปรับปรุงโครงสร้างองค์กรตามที่ได้ผ่านเกณฑ์การประเมินค่างานในระดับรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ดังนี้
1.สายผลิตภัณฑ์และบริการลูกค้า มีหน้าที่รับผิดชอบกำกับดูแลการพัฒนาผลิตภัณฑ์และการบริการลูกค้าผู้โดยสารของบริษัทฯ ในภาพรวมให้ได้รับความสะดวกสบายอย่างครบวงจร และมีประสิทธิภาพ และสร้างโอกาสในการพัฒนาธุรกิจขององค์กรให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้น มีหน่วยงานระดับผู้อำนวยการใหญ่อยู่ในความรับผิดชอบ จำนวน 2 ฝ่าย คือ ฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์และการบริการ และฝ่ายบริหารงานบริการและลูกค้าสัมพันธ์
2. สำนักเลขานุการบริษัทฯ มีหน้าที่กำกับดูแลงานด้านกฎหมาย กำกับกิจกรรมองค์กร ธรรมาภิบาล การบริหารทั่วไป และเป็นสื่อกลางระหว่างผู้ถือหุ้นกับคณะกรรมการบริษัทฯ รวมทั้งกำกับดูแลระเบียบ หลักเกณฑ์ ข้อบังคับ และกฎหมายที่เกี่ยวข้องทั้งภายในและภายนอกบริษัทฯ ตามข้อกำหนดของสำนักงานกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ มีหน่วยงานระดับ ผู้อำนวยการใหญ่อยู่ในความรับผิดชอบ จำนวน 2 หน่วยงาน คือ ฝ่ายกฎหมายและกำกับกิจกรรมองค์กร และฝ่ายบริหารทั่วไป ซึ่งโอนย้ายมาจากสายทรัพยากรบุคคล
3. สายทรัพยากรบุคคล มีหน้าที่รับผิดชอบการพัฒนาบุคลากรและการบริหารทรัพยากรบุคคลให้มีประสิทธิภาพ โดยมุ่งเน้นงานด้านบริหารทรัพยากรบุคคลอย่างเต็มที่ ซึ่งเป็นไปตามกลยุทธ์การเพิ่มประสิทธิภาพด้านการบริหารบุคลากรและโครงสร้างองค์กร มีหน่วยงานงานระดับผู้อำนวยการใหญ่อยู่ในความรับผิดชอบ จำนวน 2 หน่วยงาน คือ ฝ่ายบริหารทรัพยากรบุคคล และ ฝ่ายพัฒนาและฝึกอบรมบุคลากร
10. การแต่งตั้งโยกย้ายฝ่ายบริหาร
คณะกรรมการบริษัทฯ มีมติแต่งตั้งโยกย้ายฝ่ายบริหาร ดังนี้
1. นายนิรุจน์ มณีพันธ์ ดำรงตำแหน่ง รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่สำนักเลขานุการบริษัทฯ
2. นายสาธก วรศะริน ดำรงตำแหน่ง รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่สายทรัพยากรบุคคล
3. นายธีรพล โชติชนาภิบาล ดำรงตำแหน่ง รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่สายผลิตภัณฑ์และการบริการลูกค้า
4. นายดนุช บุนนาค ดำรงตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการหน่วยธุรกิจการบริการ ภาคพื้น ระดับรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่
นอกจากนี้ คณะกรรมการบริษัทฯ ยังรับทราบการแต่งตั้งโยกย้ายฝ่ายบริหารระดับผู้อำนวยการใหญ่ ดังนี้
1. เรืออากาศเอกโสภิต โภคะสุวรรณ ดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายบริหารความเสี่ยง
2. นายฉลองชัย หิรัณยเลขา ดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายวางแผนการตลาดและบริหารรายได้
THAI Announces Board Meeting Results
Today, 25 February 2011, Thai Airways International Public Company Limited (THAI) held a Board of Directors’ Meeting chaired by Mr. Ampon Kittiampon, THAI Chairman, at THAI Head Office with the following announcements.
1. Operating Results for 2010
The THAI Board of Directors acknowledged the operating results for 2010 year as follows:
From the period beginning January to end of December 2010, THAI successfully implemented the strategic plan to build a solid foundation for the organization’s business even though during the year THAI was affected by several key events. The volcanic eruptions in Iceland in April 2010 caused the European airspace to be closed, affecting THAI’s operations to Europe, after which, Thailand faced internal political protests from mid April to May 2010 that impacted travel-related businesses in the country. Nonetheless, the company’s operating profit in 2010 increased from the previous year in 2009, as a result of THAI’s intensive business strategy and adjustment to the work plan in proactively reacting to the continuously changing situations, as well as the key events having subsided by the third quarter.
Hence, in 2010 THAI’s total revenue was 184.3 billion baht, an increase by 20.4 billion baht from 2009, or an increase of 12.4%. The Company’s operating revenue increased by 19 billion baht, or 11.7%. The expenses, which do not include gains/losses on foreign currency exchange, but include sharing of profits of investments by the equity method and finance costs, were 175.9 billion baht which was 16.9 billion baht higher than expenses in 2009, or 10.6% higher, due to a higher average price of jet fuel by 26.4%. The increase in production and traffic combined with the higher personnel costs, partly as a result of the Company having implemented the strategy for employee management through the Gold Handshake and Mutual Separation Plan projects, came to a total of 2.3 billion baht, which also included a three-month bonus scheme for 2010 fiscal year. These costs are not regular operating costs. This strategy of the Company’s human resource management would help to reduce the long-term costs for employees.
In addition, in 2010 THAI had gains on foreign currency exchange of 9.1 billion baht, which was an increase by 5.9 billion baht, or by 187.5%. THAI had a profit before income tax of 17.5 billion baht, which was an increase of 9.4 billion baht, or 116.1%. The company had profits before foreign currency exchange and income tax of 8.4 billion baht, which was an increase of 3.5 billion baht, or 70.4%.
The net profit was 15.4 billion baht or 8.39 baht per share, higher than that of 7.3 billion baht or 4.32 baht per share in 2009. EBITDAR was 33.3 billion baht, which was 1.4 billion baht or 4.4% higher than the previous year.
2. Operating Results for January 2011
The THAI Board of Directors acknowledged the operating results for January 2011 as follows:
Available Seat-Kilometer (ASK) for January 2011 was 2.1% higher than in January 2010. Revenue Passenger-Kilometer (RPK) for January 2011 was 3.1% lower than in January 2010. Cabin Factor averaged at 77.8%.
For Cargo and Commercial Mail, Available Dead Load Ton-Kilometers (ADTK) for January 2011 was 11.6% higher than in January 2010. Revenue Freight Ton-Kilometers (RFTK) for January 2011 was 9.9% higher than in January 2010. Freight Load Factor averaged at 53.7%.
3. THAI Shareholder Dividend for 2010
The THAI Board’s resolution on the 2010 dividend, for the period 1 January – 31 December 2010, of 1.25 baht per share is to be submitted to the Shareholders at the 2011 Annual General Shareholders Meeting, with the dividend payment being made by 20 May 2011.
4. 2011 Annual General Shareholders Meeting
THAI’s Board of Directors approved for the Company to hold its Annual General Shareholders’ Meeting on Wednesday, 27 April 2011, at 13.30 hours, at the Makawan Rangsan Room, Royal Army Club, Vibhavadi Rangsit Road. Shareholders who are entitled to attend the Annual General Shareholders’ Meeting will be determined on Tuesday, 15 March 2011 in accordance with Section 225 of the Securities and Exchange Act 1992. The closing of the Shareholders’ Registration book will take effect on Wednesday, 16 March 2011.
5. Financial Advisors and Underwriters for Thai Baht Debentures
THAI’s Board of Directors approved the appointment of Bangkok Bank Public Company Limited and Kasikorn Bank Public Company Limited as Financial Advisors and Underwriters for the issuance of 8 billion baht domestic debentures to be issued by May 2011.
6. Aircraft Acquisition Plan 2011-2022
THAI’s Board of Directors approved of the following aircraft acquisition plan:
1. Approved the aircraft acquisition plan 2011-2017 for 37 aircraft that include 11 narrow-bodied aircraft, 26 wide-bodied aircraft, for intercontinental and regional routes, and spare engines, at approximately 216.1 billion baht.
2. Approved of the aircraft acquisition plan 2018-2022 for 38 wide-bodied aircraft for intercontinental and regional routes, including spare engines, at approximately 241.1 billion baht. The number of aircraft acquired through firm order is 21 aircraft, and optional order is 17 aircraft.
The acquisition plan 2011-2022 for new aircraft is according to the corporate strategic plan 2011-2017, to support the Company’s route network and fleet for improved efficiency, to replace ageing aircraft, and increase fleet size for traffic growth. This aircraft acquisition investment is an addition to previously approved orders consisting of 26 aircraft awaiting delivery: five Airbus A330-300 (pending installation of seats by ZIM Company Limited), six Airbus A380-800, seven Airbus A330-300, and eight Boeing 777-300ER; in addition to 21 aircraft to be decommissioned there are eight Airbus A300-600, six Boeing 747-400, three 777-300ER with aircraft leases to expire, and the return of four Boeing 737-400 leased to Nok Air after the lease expires.
The overall goal in this round of aircraft acquisition plan is to modernize THAI’s fleet and to have younger aircraft, in line with other commercial airlines. The average fleet age will be reduced from 11.9 years in 2010 to an average age of 8.5 years in 2017, with improved fleet productivity, reduced jet fuel consumption at an average of 1.3 percent per year, reduced carbon emissions at an average of 1.5 percent per year, and reduced aircraft maintenance costs at an average of 3.2 percent per year. Most importantly, these new aircraft will be equipped and fitted with new and comfortable seats along with modern in-flight entertainment systems that meet customers’ needs.
7. THAI Freighter Aircraft Plan
THAI’s Board of Directors approved THAI’s Freighter Aircraft Acquisition Plan to convert two decommissioned Boeing B747-400 aircraft, between 15-20 years, into freighter aircraft for THAI’s cargo and commercial mail aircraft fleet by the second quarter of 2012.
8. THAI to Recruit New Cabin Crews in 2011
THAI’s Board of Directors approved the 2011-year recruitment of 468 new cabin crew, comprising 187 male and 281 female cabin attendants. Of the female cabin attendants, there will be 248 Thais, 28 Japanese and 5 Koreans.
THAI will start the recruitment and selection process for Thai cabin attendants first, starting in March 2011, followed by the recruitment and selection of Japanese and Korean cabin attendants. For more information, please visit www.thaiairways.com.
9. Reorganization
THAI Board of Directors approved the reorganization at the Executive Vice President level as follows.
1. Product and Customer Services Department, Executive Vice President Level to oversee product development and overall customer services. The Product and Customer Services Department shall ensure all touch points services are efficiently delivered to our passengers, and also seek new opportunities for the Company’s business development.
Departments under Product and Customer Services:
1.1 Product and Services Development, Vice President
1.2 Customer Service Management and Relations, Vice President
2. Corporate Secretariat Department, Executive Vice President Level to oversee the Company’s legal and corporate governance. The Corporate Secretariat will coordinate between the Company’s shareholders and Board of Directors, and will also ensure that the company’s legal, rules and regulations are in compliance with the Securities and Exchange Commission’s laws and regulations.
Departments under Corporate Secretariat:
2.1 Legal and Compliance, Vice President
2.2 General Administration, Vice President
3. Human Resource Department, Executive Vice President Level to focus on human resources management and development in accordance with the company’s human capital and the organization’s effectiveness strategy
Departments under Human Resource Department:
3.1 Human Resources Management, Vice President
3.2 Personnel Development and Training, Vice President
10. Management Appointments and Transfers
THAI’s Board of Directors approved the appointments and transfers below.
10.1 Mr. Niruj Maneepun, Vice President, Legal and Compliance Department, as Executive Vice President, Corporate Secretariat
10.2 Mr. Sathok Varasarin, Managing Director, Catering Department, as Executive Vice President, Human Resources and General Management
10.3 Mr. Teerapol Chotichanapibal, Vice President, Commercial Development and Support Department, as Executive Vice President, Product and Customer Services
10.4 Mr. Danuj Bunnag, Vice President, Market Planning/Revenue Planning Management Department, as Managing Director (Executive Vice President level), Ground Service Business Unit
10.5 Flt. Lt. Sopit Pokasoowan, Special Advisor, Office of the Executive Vice president Strategy & Business Development, as Vice President, Risk Management Department
10.6 Mr. Chalongchai Hiranyalekha, Director Revenue and Market Strategic Planning Department, as Vice President, Market Planning/Revenue Managem
Credit: Thai Airways International (www.thaiairways.com)
Green Hotel offers a comfortable stay in the heart of Bangkok. Located on Paniang & Chakrapadipong Road (Nang Lerng) near Rajadamnoen Avenue. With our magnificent location, guests can conveniently explore Bangkok especially the old town and the Rattanakosin Island. Green Hotel has three types of rooms to suit individual needs. They are spacious Standard (440 ฿/Night), Deluxe (540 ฿/Night) and V.I.P. (730 ฿/Night). Free Wi-Fi in Lobby. Tel +662 629 8740 to 2 Email: reservation@greenbkk.com
No comments:
Post a Comment